Capture page หรือจะเรียกสั้นๆง่ายๆว่า
การสร้างลิสต์รายชื่อผู้มุ่งหวัง
องค์ประกอบหลัก 3 ส่วนที่จะต้องมีใน Capture
Page
ในการทำธุรกิจออนไลน์ประเภทใดๆก็ตาม
เว็บไซต์นับว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งและมักจะถูกจัดทำขึ้นเป็นลำดับแรกเสมอ
ยิ่งถ้าหากท่านใช้ระบบ Attraction
Marketing ในการทำการตลาดด้วยแล้วก็ย่อมจะต้องมีระบบ Lead
Generation และระบบ Email Marketing ด้วยอย่างแน่นอน ในส่วนของระบบ Lead Generation นั้นเป็นการสร้างรายชื่อผู้มุ่งหวังอย่างอัตโนมัติ
ซึ่งท่านจะต้องมีหน้าเว็บไซต์สำหรับใช้ดึงดูดและเก็บข้อมูลของผู้มุ่งหวัง เช่น
ชื่อ นามสกุล อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น
จากนั้นสร้างความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและทำการตลาดกับผู้มุ่งหวังโดยใช้ระบบ Email
Marketing ต่อไปหน้าเว็บไซต์ที่ใช้ดึงดูดและเก็บข้อมูลผู้มุ่งหวังนั้น
จะเรียกกันว่า “Capture Page” บางครั้งท่านอาจเคยได้ยินคำว่า “Landing
Page” หรือ “Splash Page” ก็ขอให้เข้าใจว่ามีความหมายเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เราจะขอใช้คำว่า“Capture Page” ในบทความนี้แล้วกันนะ ในการสร้างหน้า Capture
Page ให้มีเนื้อหาที่สามารถดึงดูดและเก็บข้อมูลผู้มุ่งหวังได้บรรลุผลสำเร็จนั้น
จะต้องมีองค์ประกอบหลัก 3 ส่วน ดังนี้….
1. หัวข้อ (Headline) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ผู้มุ่งหวังจะอ่านหัวข้อเป็นลำดับแรกสุดจากนั้นจะตัดสินใจต่อไปว่าจะยังคงอยู่ดูเนื้อหาส่วนอื่นๆต่อไปหรือไม่ ซึ่งถ้าหัวข้อไม่ดึงดูดหรือสร้างความสนใจได้มากเพียงพอก็จะปิดหน้าเว็บนั้นทันทีโดยไม่สนใจเนื้อหาส่วนอื่นๆอีกเลย ทั้งหมดเกิดขึ้นในระยะเวลาแค่ 3 วินาทีแรกเท่านั้น ดังนั้นท่านจำเป็นที่จะต้องให้เวลากับการคิดหัวข้อให้มากเพื่อที่จะสามารถดึงดูดผู้มุ่งหวังให้ยังคงอยู่ในหน้าเว็บของท่านต่อไป
2. เนื้อความ (Body) ส่วนนี้จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับผู้มุ่งหวัง เนื้อหาที่เป็นข้อความควรทำเป็นลักษณะหัวข้อซึ่งจะอ่านได้ง่าย กระชับ ได้ใจความ นอกจากนั้นควรมีเนื้อหาที่นำเสนอความเป็นตัวท่านอย่างชัดเจนโดยใช้สื่อมัลติมีเดีย เช่น เสียงพูด หรือวีดีโอ ในลักษณะของการให้ข้อมูล คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อผู้มุ่งหวัง ซึ่งจะทำให้ผู้มุ่งหวังรู้จักและเชื่อถือในตัวท่านมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามสื่อมัลติมีเดียที่นำเสนอออกไปหากทำไม่ดี อาจส่งผลลบต่อความเชื่อถือของผู้มุ่งหวังได้ ดังนั้นท่านควรจะให้ที่ปรึกษาของท่านตรวจสอบดูก่อนว่าสามารถที่จะนำเสนอบนหน้า Capture Page ได้หรือไม่
3. บอกว่าท่านต้องการให้ทำอะไร (Call to Action) เมื่อผู้มุ่งหวังดูเนื้อหาทั้งหมดในหน้า Capture Page แล้ว ท่านต้องบอกต่อไปว่าต้องการให้ผู้มุ่งหวังทำอะไร เช่น คลิกที่ลิงก์เพื่อโหลดเอกสาร หรือกรอกข้อมูลลงในช่องว่างเพื่อรับ E-Bookเป็นต้น ยิ่งถ้าหากท่านได้ให้คุณค่ากับผู้มุ่งหวังมากเท่าใด อัตราความสำเร็จก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างหน้า Capture Page ของเราเอง
1. หัวข้อ (Headline) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ผู้มุ่งหวังจะอ่านหัวข้อเป็นลำดับแรกสุดจากนั้นจะตัดสินใจต่อไปว่าจะยังคงอยู่ดูเนื้อหาส่วนอื่นๆต่อไปหรือไม่ ซึ่งถ้าหัวข้อไม่ดึงดูดหรือสร้างความสนใจได้มากเพียงพอก็จะปิดหน้าเว็บนั้นทันทีโดยไม่สนใจเนื้อหาส่วนอื่นๆอีกเลย ทั้งหมดเกิดขึ้นในระยะเวลาแค่ 3 วินาทีแรกเท่านั้น ดังนั้นท่านจำเป็นที่จะต้องให้เวลากับการคิดหัวข้อให้มากเพื่อที่จะสามารถดึงดูดผู้มุ่งหวังให้ยังคงอยู่ในหน้าเว็บของท่านต่อไป
2. เนื้อความ (Body) ส่วนนี้จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับผู้มุ่งหวัง เนื้อหาที่เป็นข้อความควรทำเป็นลักษณะหัวข้อซึ่งจะอ่านได้ง่าย กระชับ ได้ใจความ นอกจากนั้นควรมีเนื้อหาที่นำเสนอความเป็นตัวท่านอย่างชัดเจนโดยใช้สื่อมัลติมีเดีย เช่น เสียงพูด หรือวีดีโอ ในลักษณะของการให้ข้อมูล คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อผู้มุ่งหวัง ซึ่งจะทำให้ผู้มุ่งหวังรู้จักและเชื่อถือในตัวท่านมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามสื่อมัลติมีเดียที่นำเสนอออกไปหากทำไม่ดี อาจส่งผลลบต่อความเชื่อถือของผู้มุ่งหวังได้ ดังนั้นท่านควรจะให้ที่ปรึกษาของท่านตรวจสอบดูก่อนว่าสามารถที่จะนำเสนอบนหน้า Capture Page ได้หรือไม่
3. บอกว่าท่านต้องการให้ทำอะไร (Call to Action) เมื่อผู้มุ่งหวังดูเนื้อหาทั้งหมดในหน้า Capture Page แล้ว ท่านต้องบอกต่อไปว่าต้องการให้ผู้มุ่งหวังทำอะไร เช่น คลิกที่ลิงก์เพื่อโหลดเอกสาร หรือกรอกข้อมูลลงในช่องว่างเพื่อรับ E-Bookเป็นต้น ยิ่งถ้าหากท่านได้ให้คุณค่ากับผู้มุ่งหวังมากเท่าใด อัตราความสำเร็จก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างหน้า Capture Page ของเราเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น